กระบี่

ประวัติความเป็นมา
จังหวัด กระบี่ ตั้งขึ้นในปลายรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในอดีต กระบี่ เป็นเพียงแขวงหนึ่ง อยู่ในอำ นาจการปก ครอง และบังคับบัญชาของเมืองนครศรีธรรมราช "แขวงเมืองปกาสัย" พระยาผู้ครอง เมือง นครศรธรรมราช อพยพมา ตั้งหลักแหล่งทำมาหากินเพิ่มมากขึ้น พระยาปลัดเมืองฯ ได้ยกตำบลปกาสัยขึ้นเป็น "แขวงเมืองปกาสัย" ขึ้น ต่อเมือง นครศรีธรรมราช"
ประมาณปี พ.ศ.2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะ ขึ้นเป็นเมืองปกาสัย และทรงพระราชทานนามว่า "เมืองกระบี่" เมื่อได้ประกาศตั้งขึ้นเป็นเมืองแล้ว โปรด เกล้าฯ ให้ตั้งที่ ทำการอยู่ที่ตำบล กระบี่ใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ในท้องที่อำเภอเมือง กระบี่ ปัจจุบัน มีหลวงเทพเสนาเป็น เจ้าเมือง กระบี่ คนแรก ต่อมาในปี พ.ศ.2418 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกเมือง กระบี่ ออกจากการปกครอง ของ เมืองนครศรี ธรรมราช เป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงตาอกรุงเทพฯ และในปี 2443 สมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุ หเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ได้พิจารณาเห็นว่าศาลากลางจังหวัดที่บ้าน ตลาดเก่าไม่สะดวกต่อ การคม นาคม เพราะสมัย นั้นต้องอาศัยเรือเป็นพาหนะ จึงได้ย้ายที่ตั้งเมืองไปอยู่ตำบลปากน้ำ อยู่ใกล้ปากอ่าวเป็นร่องน้ำลึก เรือใหญ่สามารถ ข้าเทียบท่าได้สะดวก เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดจนถึงปัจจุบัน
ความ หมายของคำว่า "กระบี่" มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ชาวบ้านได้ขุดพบกระบี่หรือ อาวุธโบราณ ใหญ่ เล่มหนึ่ง รูปร่างคล้ายกับกระบี่เล่มใหญ่ จึงนำมามอบให้กับเจ้าเมือง กระ บี่ เช่นกัน เจ้าเมืองกระบี่เห็นว่าเป็น อาวุธ โบราณ สมควรเก็บไว้เป็น กระ บี่คู่บ้านคู่เมือง เพื่อเป็นสิริมงคล แต่ขณะนั้นยังสร้างเมืองไม่เสร็จ จึงได้นำมาเก็บ ไว้ในถ้ำ เขาขนาบน้ำหน้าเมืองโดยวางไขว้กัน ซึ่งลักษณะการวาง กระบี่ ดังกล่าว ก็ได้นำมา เป็นส่วนหนึ่งของ สัญลักษณ์ ตราประจำจังหวัดคือ "รูปกระบี่ ไขว้เบื้องหลังมีภูเขา และทะเล" ซึ่งบ้านที่ขุดพบเล่มใหญ่ได้ตั้งชื่อว่า "บ้านกระบี่ใหญ่" และบ้านที่ขุดพบเล่มเล็กได้ตั้งชื่อว่า "บ้านกระบี่น้อย" แต่มีอีกตำนานหนึ่งสันนิษบานว่า "กระบี่" อาจเรียกชื่อต่ามพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่มีมากในท้องถิ่ คือต้น "หลุมพี" จึงเรียกชื่อท้องถิ่นนี้ว่า "บ้านหลุมพี" มีชาวมลายู และชาวจีนที่เข้ามาค้าขายได้เรียกเพี้ยนเป็น "กะ-ลู-บี" หรือ "คอโลบี" ต่อได้เพี้ยนเป็นสำเนียงไทยว่า "กระบี่"

เขตการปกครอง
จังหวัดกระบี่ ได้ แบ่งเขตการปกครองส่วนภูมิภาคออกเป็น 8 อำเภอ 51 ตำบล 388 หมู่บ้าน แบ่งการปกครองส่วนท้อง ถิ่นออกเป็น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 เทศบาลเมือง 9 เทศนาลตำบล และ 51 องค์การบริหารส่วนตำบล

ภูมิศาสตร์
ขนาดและที่ตั้ง จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ทางด้านฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้ ติดกับทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงแผ่นดินประมาณ 814 กิโลเมตร มีพื้นที่ ทั้งหมด 4,708.512 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,942,820 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้

ทิศเหนือ จดจังหวัดพังงา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางด้านอำเภอปรายพระยา และอำเภอเขาพนม
ทิศใต้ จดจังหวัดตรัง และทะเลอันดามันทางด้านอำเภอเกาะลันตา อำเภอเมืองกระบี่ และอำเภอเหนือคลอง
ทิศตะวันออก จดจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรังทางด้านอำเภอเขาพนม อำเภอลำทับ และอำเภอคลองท่อม
ทิศตะวนตก จดจังหวัดพังงา และทะเลอันดามัน ทางด้านอำเภออ่าวลึก และอำเภอเมือง

ภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศ โดยทั่วไปของจังหวัดกระบี่ ทางตอนเหนือประกอบด้วยเทือกเขายาวทอดตัวไปในแนวเหนือ ใต้ สลับกับสภาพพื้นที่แนบลูกคลื่นลอนลาด และลอนชัน มีที่ราบชายฝั่งทะเลทางด้านตะวันตก บริเวณทางตอนใต้ มี สภาพภูมิประเทศ เป็นภูเขากระจัดกระจายสลับกับพื้นที่แบบลูกคลื่น ส่วนบริเวณทางตอนใต้สุด และตะวันตกเฉียงใต้ มีสภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่นลอนลาดจนถึงค่อนข้างราบเรียบ และมีภูเขาสูงๆ ต่ำๆ สลับกันไป บริเวณด้านตะวันตก มีลักษณะเป็นชายฝั่งติดกับทะเลอันดามัน ยาวประมาณ 160 กิโลเมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ ประมาณ 130 เกาะ แต่เป็นเกาะที่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 130 เกาะ เกาะที่สำคัญ ได้แก่ เกาะลันตา เป็นที่ตั้งของอำเภอเกาะลันตา และเกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของโลก

ภูมิอากาศ
จังหวัดกระบี่ มีภูมิอากาศแบบมรสุมในเขตร้อน และได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออก เฉียงเหนือ ทำให้มีฝนชุกตลอดปี และมีเพียง 2 ฤดู
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายน
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม
จากการที่มีลักษณะภูมิอากาศแบบมรสุม ในเขตร้อน อุณหภูมิในแต่ละฤดูกาลจึงไม่แตกต่างกันมากนัก คือ อยู่ระหว่าง 17.9-39.1 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 2,069.8-2,263.1 มิลลิเมตรต่อปี

การท่องเทีื่ยว
จังหวัดกระบี่ เป็น จังหวัดทตั้งอยู่ี่ติดกับชายฝั่งทะเลอันดามัน มีหาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำทะเลสีเขียวใสดั่งมรกต เป็นจุด



หนึ่งที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ให้เข้ามาเยี่ยมเยือน จังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ จัง หวัดกระบี่ ยังมีความหลากหลาย ของแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว รวมไปถึงขนบธรรม เนียม ประเพณี ศิลปะ-วัฒนธรรมท้องถิ่นและ วิถีชีวิต ของชาวบ้านจังหวัดกระบี่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้กระบี่สา มารถที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
สถาน ที่ท่องเที่ยว ของจังหวัดกระบี่นั้น มีหลากหลายประเภท เช่น ทะเล เกาะ ชายหาด วัด อุทยานแห่งชาติ และ น้ำตก เป็นต้น หมู่เกาะพีพี มรกตแห่งอันดามัน น้ำทะเลที่ใสมองเห็นตัวปลา หาดทรายขาวสะอาดที่ทอดยาว รอให้นักท่องไ้ด้ออก ไป เดินเล่น หรือนอนอาบแดด ทั้งนี้เกาะพีพี ยังประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ที่มีความสวยงามไม่แก้กัน อีกหลายเกาะ
เกาะลันตา เกาะที่เงียบสงบ ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูีรณ์ นอกจากหาดทรายที่ขาวสะอาดแล้ว บนเกาะยังมีถ้ำ และน้ำตก หลายแห่ง ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมเยือน
ทะเล แหวก หนึ่งใน Unseen in Thailand เป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยาก ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อน้ำทะเลลด ระดับลงจนถึงจุดต่ำสุด จนเห็นหาดทรายขาวสะอาด ที่เชื่อมระหว่างเกาะสองเกาะ กลายเป็นทางเดินทอดยาว ทำให้ นักท่องเที่ยว สามารถเดินเล่นได้ ระหว่างเกาะสองเกาะ
พิพิธภัณฑสถาน วัดคลองท่อม เป็นสถานที่ที่ใช้จัดเก็บ วัตถุโบราณที่ขุดค้นพบภายในจังหวัดกระบี่ เช่น พระพุทธ รูป จานชาม โบราณ เครื่องประดับ เป็นต้น จัดเป็นสถานที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
ท่า ปอมคลองสองน้ำ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลง เมื่อน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น ทำให้น้ำภายใน ลำธาร เกิดเป็นน้ำเค็ม แต่เมื่อเวลา น้ำทะเลลดลง น้ำจืดบริเวณลำธารก็จะแทนที่กลายเป็นน้ำจืดสนิท ทำให้บริเวณนี้มี ความหลากหลายทางระบบนิเวศ
สถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของกระบี่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ในจังหวัด กระบี่ ที่สามารถรองรับ นักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
กิจกรรม การท่อง เที่ยว นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่จังหวัดกระบี่ได้จัด เตรียม ไว้เพื่อรองรับ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกระบี่
ดำน้ำ ความงามของโลกใต้ท้องทะเลกระบี่ ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมที่จะลงไปสัมผัส นอกจากปะการังที่สวยงาม หลากสีสรรแล้ว ยังมีปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนกระบี่อยู่ใต้น้ำ
ปีนผา ความทาย และบททดสอบถึงความอดทน เพื่อที่จะพิชิตยอดเขาแห่งอันดามัน เพื่อขึ้นไปชื่นชมทิวทัศน์ จากมุมสูง การปีนผาจึงเป็นกิจกรรมหนึ่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายและตื่นเต้น
ปั่น จักรยาน เป็นกิจกรรมการ ท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง ที่หลายคนเลือก เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้่ว นักท่องเที่ยวยังได้ออกไปชื่นชมกับธรรมชาติ และความงามของจังหวัดกระบี่
พายเรือคา ยัค เป็นการพายเพื่อออกไปท่องเที่ยว ตามเกาะแก่งและคลองต่างๆ เพื่อชื่นชมวิถีชีวิตของชาวเล และระบบนิเวศของป่าชายเลน นอกจากนี้ยังสามารถที่จะพายเข้าไปในถ้ำต่างๆ เพื่อศึกษาร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ตามผนังถ้ำ์

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัด กระบี่

อำเภอเมือง

ตัวเมืองกระบี่ เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีเขาขนาบน้ำที่เป็นจุดเด่นของเมืองคู่กับป่าชายเลนที่สมบูรณ์

เขียวชอุ่ม ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนูเพื่อเป็นการพักผ่อนและออกกำลังกาย หรือในช่วงเย็นแดดร่ม
อากาศสบาย ๆ สามารถเดินเล่นรับลมพร้อม ๆ กับนั่งรับประทานอาหารเย็นได้ที่ตลาดโต้รุ่ง บริเวณท่าเรือเจ้าฟ้า และบริเวณตลาด ถนนมหาราช ก็มีอาหารพื้นเมืองให้รับประทาน ทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำพริก แกงไตปลา ไก่ทอดพื้นเมืองรสชาติกลมกล่อม และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามหาดหรือเกาะต่าง ๆ เช่น หาดไร่เลย์ อ่าวนาง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะจำ และเกาะสีบอยา

เขาขนาบน้ำ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที นอกจากนั่งเรือชมเขาและป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์แล้วยังสามารถเดินขึ้นไป เที่ยวถ้ำได้ ภายในมีหินงอก

หินย้อย และเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอีกด้วยแต่ปัจจุบันไม่หลง เหลืออยู่แล้ว สันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลง เนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และสำหรับนักนิยมพายเรือแคนู บริเวณนี้เหมาะที่จะพายเรือแคนูเพราะมีธรรมชาติที่เขียวชอุ่มด้วยป่าชายเลน และน้ำนิ่ง สนใจสามารถติดต่อบริษัทเรือแคนู ในจังหวัดกระบี่ได้
นอกจากนั้นไม่ห่างจากเขาขนาบน้ำจะมีชุมชนชาวเกาะกลาง ที่บนเกาะจะมีหอพิพิธภัณฑ์และศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านแสดงเครื่องใช้ในสมัย โบราณ ของที่ระลึกฝีมือชาวบ้าน อาทิ เรือโทงเทง และจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน การทอผ้าฝ้าย การเลี้ยงปลาในกระชัง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือเทศบาล บริเวณเขาขนาบน้ำ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าเช่าเรือลำละ 300 บาท

เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ 242,437 ไร่ เป็นพื้นน้ำประมาณ 200,849 ไร่ มีป่าไม้ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบชื้น พบเห็นได้บริเวณเขาสูงชันบริเวณเขาหางนาค เขาอ่าวนาง ป่าชายเลน จะพบบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ คลองย่านสะบ้า และด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณสุสานหอย 40 ล้านปี และป่าพรุ ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างสมบูรณ์ มีสัตว์ต่าง ๆ ที่พบในอุทยานฯ ได้แก่ นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง หมูป่า ลิง และค่าง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม – เดือนเมษายน
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีได้ทั้งจากกระบี่และภูเก็ต จากท่าเรือจิหลาดในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ 2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 15.00น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 14.00 น. ค่าโดยสารคนละ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณสอง ชั่วโมงครึ่ง และมีเรือเร็วนำเที่ยวเช้าไปเย็นกลับ ออกจากอ่าวนาง เวลา 09.00 น. และกลับเวลา 17.00 น. ติดต่อโทร. 0 7563 7152-3 ส่วนการเดินทางจากภูเก็ตมีเรือนำเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าไปเย็นกลับ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไปในตัวเมืองภูเก็ต ส่วนเรือโดยสารติดต่อ บริษัท อันดามันเวฟมาสเตอร์ จำกัด โทร. 0 7623 2561-2 เว็บไซต์ www.andamanwavemaster.com พี.พี. แฟมิลี่ โทร. 0 7561 2463 ชาวเกาะ โทร. 0 7563 1823 ภูเก็ตบิสิเนสกรุ๊ป โทร. 0 7624 9303, 0 7622 2824

หาดนพรัตน์ธารา อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ชายหาดมีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอด ลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายทะเล
ยาวเหยียด เมื่อน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ นอกจากนั้นบริเวณชายหาดมีที่พักของอุทยานฯ บริการแก่นักท่องเที่ยว จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าไปตามชายหาดด้านทิศตะวันตก ี้ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่ชาวกระบี่ นิยมไปเที่ยวพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ ยังไม่มีถนนตัดเลียบชายหาด

สุสานหอย อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็น
จำนวนมากโดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 เซนติเมตร ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วม บริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหุ้มเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี

อ่าวนาง อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดยาว มีที่พักร้านค้า ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตระหง่าน จากอ่าวนางสามารถเช่าเรือไปเที่ยวชายหาดด้านทิศตะวันออกได้แก่
หาดไร่เล ซึ่งเป็นหาดทรายสีขาวละเอียด และ หาดถ้ำพระนาง ซึ่งมีถ้ำหินงอกหินย้อยและกิจกรรมปีนหน้าผาที่น่าตื่นเต้น ท้องทะเลในบริเวณอ่าวนางมีเกาะใหญ่น้อยกว่า 83 เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก เกาะที่มีหาดทรายสวยงามและคนนิยมไปเที่ยวเล่นน้ำชมปะการังได้แก่ เกาะปอดะ เกาะหม้อ และเกาะทัพ

หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดของนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะเป็นที่ตั้งของเกาะทัพ เกาะหม้อ
เกาะหัวขวาน เกาะไก่ ซึ่งมีสันทรายเชื่อมต่อกันสวยงามมองเห็นได้เวลาที่น้ำลง

หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลาย เสียงเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่ เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะ
6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะมีหาด ทรายสวย น้ำทะเลใส

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะพีพี

เกาะพี พี ดอน จ.กระบี่ ถูกโหวตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก...ที่สวยประทับใจและควรไปซ้ำ

จำนวนผู้อ่าน 435 ครั้ง อัพ เดตเมื่อ 23:36:08 2008-09-18

เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็น อย่างยิ่งที่ เกาะพี พี ดอน จังหวัดกระบี่ ของประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 แหล่งท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก (Travel’s Choice 2008 Award Winner “A Top World Destination”) จากการประกาศผลรางวัลแหล่งท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก และของทวีปต่างๆ ประจำปี 2551 (2008 Traveler’s Choice Destination Awards) จัดโดยเว็บไซต์ www.TripAdvisor.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม เพื่อค้นหาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก

โดยมีผู้เข้าชมจากทั่วทุกมุมโลก มากกว่า 25 ล้านคนต่อเดือน รางวัลนี้มิได้มอบให้แก่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเท่านั้น แต่ต้องมีเสน่ห์ และสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว ตัดสินใจเดินทางกลับไปเยือนสถานที่ดังกล่าว ซ้ำในอนาคตได้อีกด้วย สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวพร้อมใจกันโหวตให้ เกาะพีพี ดอน ได้รับรางวัลดังกล่าว เนื่องจากศักยภาพด้านทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงามหลากหลาย อาทิเช่น หาดทราย ชายทะเล ป่าเขา ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ในการจัดอันดับ 25 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเอเชีย (A Top Asian Destination) เกาะพีพี ดอน และอีก 5 แหล่งท่องเที่ยวของไทย ยังได้รับการโหวตให้ติด 1 ใน 25 ของเอเซีย ได้แก่ จ.กระบี่, จ.เชียงใหม่, กรุงเทพมหานคร, เกาะพงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งเท่ากับ

อินเดีย โดยมีจีนและญี่ปุ่นตามมาเป็นลำดับ สำหรับรางวัล 2008 Traveler’s Choice Destination Awards นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ และน่าภาคภูมิใจของชาวไทย เปรียบเสมือนเสียงสะท้อนจากทั่วโลกว่า ประเทศไทย ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศส่วนใหญ่ จากทั่วทุกมุมโลก ยังคงให้ความสนใจ และมีความประสงค์ ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ททท.ได้รุกทำการตลาดออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ จากทั่วโลก (e-Marketing Thailand Campaign) โดยเน้นไปที่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ของประเทศไทยในด้านต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวเกิดการรับรู้ว่า ประเทศไทยปลอดภัย สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ และมีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ

เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเลโดยรอบเกือบ
ทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร มีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาท
ิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือ หรือพวกโจรสลัด

เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ

ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงาม และแนวปะการังซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของเกาะ บนเกาะมีสถานที่กางเต็นท์ สอบถามข้อมูลจากอุทยานฯ

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พ.พ.4 (ทับแขก) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานฯ พื้นที่เป็นภูเขาที่สมบูรณ์ด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า มีจุดชมวิวที่สวยงามคือหงอนนาค ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลกระบี่ได้อย่างสวยงาม หน่วยพิทักษ์ฯ มีเส้นทางเดิน
ศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ต้องมีคนนำทาง

ถ้ำเสด็จ อยู่ที่หมู่บ้านหนองกก ตำบลไสไทย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 7 กิโลเมตร ถ้ำเสด็จนี้ ชาวบ้านตั้งชื่อให้เป็นมงคลนาม
เพราะเมื่อปี พ.ศ. 2452 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถ้ำแห่งนี้ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อถ้ำนี้ว่า “ถ้ำเสด็จ” ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงาม

อำเภอเขาพนม

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เป็นอุทยานฯ ทางบกแห่งเดียวของจังหวัดกระบี่ มีเนื้อที่ 31,325 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง อำเภออ่าวลึก และอำเภอเขาพนม มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนในแนวเหนือจรดใต้ มียอดเขาพนมเบญจาซึ่งสูง 1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเลสูงที่สุดในกระบี่ มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามทั้งลำธาร น้ำตก ถ้ำ และมีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น สมเสร็จ เลียงผา หมีควาย เสือปลา มีนกที่สามารถพบเห็นกว่า 218 ชนิด เช่น นกอินทรี นกเงือก
นกหัวขวาน เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยาน ฯได้แก่

ห้วยโต้ ต้นกำเนิดจากเขาพนมเบญจา มี 5 ชั้น คือ วังสามหาบ วังจงลอย วังดอยปรง วังเทวดา และวังโตนพริ้ว สายน้ำของ น้ำตกห้วยโต้ไหลมารวมกันที่คลองกระบี่ใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

น้ำตกห้วยสะเด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 300 เมตร เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูง มี 3 ชั้น มีแอ่งน้ำใสสะอาด น้ำตกสายนี้ไหลมารวมกันที่คลองโตนและไหลลงสู่คลองกระบี่ใหญ่

การเดินขึ้นยอดเขาพนมเบญจา เป็นอีกกิจกรรมของอุทยานฯ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามของพันธุ์ไม้ สัตว์ป่า
ถ้ำเพิงผา น้ำตก ธารน้ำ ทะเลหมอก จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองกระบี่ และอากาศที่เย็นสบายตลอดปี นักท่องเที่ยวที่สนใจควร สอบถามข้อมูลก่อนการเดินทาง

อำเภออ่าวลึก

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีพื้นที่ 121 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาหินปูน ป่าดิบ ป่าชายเลน และเกาะต่าง ๆ อุทยานฯ มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าชายเลน รวมถึงสังคมพืชน้ำใต้ท้องทะเล ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่เดินภายในอุทยานฯ ระยะทาง 1
กิโลเมตร และ เส้นทางเดินจากอุทยานฯ ไปป่าชายเลน ระยะทาง 3-4 กิโลเมตร

ถ้ำลอดและ ถ้ำผีหัวโต อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร ถ้ำลอด เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน บนเพดานถ้ำมีหินงอกและ หินย้อยรูปร่างต่าง ๆ กัน ส่วน ถ้ำผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลก อยู่ห่างจากถ้ำลอดประมาณ 500 เมตร แต่เดิมภายในถ้ำเคยมี
หัวกะโหลกมนุษย์ มีขนาดโตกว่าปกติจึงมีชื่อว่า “ถ้ำผีหัวโต” และบนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก
อาทิ รูปคน รูปสัตว์ บนพื้นถ้ำมีเปลือกหอยทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังสามารถพายเรือแคนูชมทิวทัศน์ป่าชายเลน ที่สงบร่มรื่นได้

ถ้ำชาวเล อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของแหลมสัก ในเวิ้งอ่าวที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามของเกาะแก่งและภูผา ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยและภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นรูปคน รูปสัตว์ และรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ หลายภาพด้วยกัน

เกาะกาโรส อยู่ทางด้าน ตะวันออกของปลายแหลมสัก เป็นบริเวณที่สามารถพายเรือแคนูได้

เกาะแดง มีหาดทรายสวยงามยาว 25 เมตร มีถ้ำลอดกว้าง 70 เมตร สูง 20 เมตร เป็นบริเวณที่ดำน้ำดูปะการังได้

หมู่เกาะห้อง เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ อาทิ เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น

กระบี่ชมทะเลแหวก หมู่เกาะห้อง อ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี

เที่ยวกระบี่ชมทะเลแหวก หมู่เกาะห้อง อ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี 1.ทัวร์ท่องทะเลกระบี่ ชมทะเลแหวก (ทัวร์ 4 เกาะ) โดย Speed Boat ชมทะเลแหวก Unseen in Thailand สันทรายที่เชื่อมยาวระหว่างเกาะไก่และเกาะทับ ดำน้ำดูปะการัง ทักทายปลานีโม พักผ่อนเล่นน้ำที่เกาะปอดะ ชมถ้ำพระนางและชมการปีนผาที่อ่าวไร่เลย์ กับบรรยากาศที่สนุกสนานเป็นกันเอง 2.ทัวร์ หมู่เกาะห้อง ท่องทะเลใน ป่าเกาะอันดามัน โดย Speed Boat ชมป่าเกาะแห่งอันดามัน พบกับลากูน (Lagoon) น้ำทะเลสีเขียวมรกต โอบด้วยผาหินปูนที่สวยงาม เดินเล่นบนหาดทรายที่ขาวและละเอียด ให้อาหารปลาอย่างใกล้ชิด เล่นน้ำดำน้ำชมปะการัง พักผ่อนตามเกาะต่าง ๆ เกาะผักเบี้ย เกาะเหลาลาดิง 3.ทัวร์หมู่เกาะพีพี – อ่าวมาหยา – เกาะไม้ไผ่ โดย Speed Boat สะดวกสบาย เพียงแค่ 45 นาที กับการนั่งเรือ ชมอ่าวมาหยา อันมีชื่อเสียงดังทั่วโลก ชมทะเลในที่อ่าวปิเละ เล่นน้ำดูปะการังที่งดงามมากมายที่อ่าวโล๊ะซามะ พักผ่อนเล่นน้ำบนเกาะไผ่ เกาะที่สวยที่สุดของหมู่เกาะพีพี ดั่งสมญานาม ดงปะการังแสนไร่ 4.ทัวร์ แช่ธารน้ำตกร้อน สระมรกต Unseen in Thailand กิจกรรมเดินป่า ศึกษาธรรมชาติของป่าเขานอจู้จี้ ป่าดิบชื้นที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของประเทศไทย เยือนถิ่นแต้วแร้วท้องดำ เล่นน้ำที่สระมรกต สระว่ายน้ำกลางธรรมชาติสีเขียวมรกต พักผ่อนแช่น้ำร้อนที่ น้ำตกร้อน สปาแห่งธรรมชาติ เพื่อสุขภาพที่ดี 5.ทัวร์พายเรือคายัค ณ อ่าวท่าเลน สนุก สนานกับการพายเรือคายัค กิจกรรมรูปแบบใหม่ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศก์และอนุรักษ์ธรรมชาติ ชมแนวป่าโกงกางที่สมบูรณ์ทั้งสองข้างทาง ชมหน้าผาหินแคนย่อนและลากูนต่าง ๆ มากมาย เกาะกลางทะเล ทดสอบกำลังใจในการพายเรือ http://www.muangthaitravel.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=519456&Ntype=4

ราคา : *** บาท